วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่4


คำสั่ง : เขียนบทความบนเว็บนักศึกษาโดยเลือกจากคลิปบุคคลสำคัญของโลกในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์


เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น อัจฉริยะ คนหนึ่งของโลก

เขามีความสามารถทั้งทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

และเป็นนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก

แถมยังเป็นนักคิดค้นที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง แต่นิสัยส่วนตัวนั้น
ไอน์สไตน์เป็นคนที่รักความสงบ นอบน้อมถ่อมตน  

ไอน์สไตน์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ปี คศ. 1879

ที่เมืองอูล์ม ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมันนี

บิดาของไอน์สไตน์เป็นชาวยิว

ไอน์สไตน์ เริ่มสนใจวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ

ขณะที่เขากำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง บิดาได้นำเข็มทิศมาให้เล่น

เขาใส่ใจและสนใจอยากรู้ว่าทำไมเข็มทิศจึงชี้ไปทางทิศเหนือ

และ ตั้งแต่นั้นมาเขาเริ่มสนใจทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์

หนังสือเรขาคณิตเป็นหนังสือที่เขาโปรดปรานมาก  

เขาศึกษาเรขาคณิตจากหนังสือของ ยูคลิด เมื่ออายุเพียง 12 ปี

เขาทำความเข้าใจในเรื่องเรขาคณิตของยูคลิดเป็นอย่างดี

ครั้งเมื่อเติบโตขึ้นจนอายุเข้า 16 ปี

เขาก็สามารถเรียนรู้หลักการทางคณิตศาสตร์ชั้นสูงหลายอย่าง

เช่น วิชาการแคลคูลัส และดิฟเฟอเรนเชียน

การอินทิกรัล และกฎของ นิวตัน ตลอดจนหลักการฟิสิกส์อีกมากมาย

วันหนึ่งในวัยเรียนหนังสือเขามองดูท้องฟ้า และจินตนาการว่า

ถ้าตัวเขาวิ่งไล่ตามแสงด้วยความเร็วเท่ากับแสงแล้วอะไรจะเกิดขึ้น  

เขาจะมองเห็นแสงหรือไม่ ถ้าไล่ตามแสงด้วยความเร็วเท่ากับแสง

ความเร็วสัมพันธ์ของแสงจะเท่ากับศูนย์หรือไม่

ถ้าแสงหยุดชงัก มันก็จะไม่มาถึงตาเรา วัตถุทั้งหลายก็จะหายไป

สิ่งนี้ทำให้เขาขบคิดอยู่ตลอดมา

ต่อมาเขาได้เข้ามหาวิทยาลัย และเลือกเรียนวิชาฟิสิกส์เป็นวิชาเอก

เขาสนใจในวิชาฟิสิกส์อย่างมาก จนใน ปี คศ. 1900

เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและได้สิทธิการเป็นพลเมืองสวิส

หลังจากนั้นได้มีโอกาสทำการวิจัยที่หน่วยงาน

จดทะเบียนลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์ที่เบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

จากการทำวิจัยในวัยหนุ่มของเขานี้เอง

ทำให้เขาได้พบกับทฤษฎีสำคัญยิ่งสาม ทฤษฎีคือ

ทฤษฎีปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กตริก

ทฤษฎีการเคลื่อนที่แบบบราวเนียน

และ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ นั่นเอง

ปี คศ. 1909   มหาวิทยาลัยชูริกได้เชิญเขาเป็นอาจารย์

และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์   

ไอน์สไตน์ได้ทำการสอนในอีกหลายมหาวิทยาลัย

เช่น มหาวิทยาลัยปราก มหาวิทยาลัยโปลิเทคนิคแห่งสวิส

มหาวิทยาลัยเบอร์ริช และไอน์สไตน์ยังได้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพล

ที่ทำให้เกิดการดึงดูดที่มีต่อการเดินทางของแสง

ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแสงเป็นอนุภาคซึ่งเป็นสิ่งที่โต้แย้งมานานว่า

แสงเป็นอนุภาคหรือเป็นคลื่น

การสรุปครั้งนี้ทำให้ทราบว่าแสงเป็นทั้งอนุภาคและคลื่น

ในปี คศ.1922 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลในสาขาฟิสิกส์

ต่อมาในปี คศ.1933 ขณะที่เขามีอายุ 54 ปี ที่เยอร์มัน

นาซีได้ยึดอำนาจการปกครอง ไอน์สไตน์จึงหลบออกจากเยอรมัน
เข้าเป็นสมาชิกของศูนย์วิทยาศาสตร์ชั้นสูงของอเมริกา

และใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

ชีวิตในปั้นปลาย ไอน์สไตน์ได้รณรงค์ต่อต้านการผลิตอาวุธนิวเคลียร์

เขาเสียชีวิตที่พรินซ์ตัน ในปี คศ. 1955   ในขณะที่มีอายุได้ 76   ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น